สระว่ายน้ำเป็นสถานที่ที่ต้องหมั่นดูแลรักษา เนื่องจากส่วนใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ต้องเจอทั้งแสงแดด และฝุ่นตะกอนที่เจือปนอยู่ในน้ำฝนและอากาศ ปัญหาที่พบบ่อยๆ ในสระว่ายน้ำคือ คราบตะกรันหินปูน คราบขาวขัดออกยาก ตะไคร่น้ำและเมือกที่เกิดจากตะไคร่น้ำ ตะกอนส่วนเกินจากระบบบำบัด น้ำขุ่นมัวจากสารในน้ำ ต้องสิ้นเปลืองพลังงานและวัตถุดิบในการบำบัด หรืออาจทำให้ต้องเปลี่ยนน้ำทั้งสระบ่อยๆ ปัจจุบันรูปแบบของระบบบำบัดสระน้ำที่นิยมมี 2 รูปแบบ ได้แก่
1. ระบบคลอรีน ใช้สารคลอรีนในการฆ่าเชื้อโรค นิยมใช้กันมากเพราะมีราคาถูกและให้ประสิทธิภาพที่ดีพอควร ปัญหาของระบบบำบัดน้ำแบบคลอรีนคือ มักจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อร่างกายเนื่องจากต้องเติมสารเคมีอยู่เสมอ มีกลิ่นฉุน และมีค่า pH เป็นกรด
2. ระบบเกลือ ใช้เกลือคุณภาพสูงผ่านเครื่องฟอกน้ำมาควบคุมความสะอาดของน้ำในสระ ช่วยให้น้ำใส ปราศจากเชื้อโรค ระบบบำบัดเกลือถูกออกแบบให้มีความเค็มน้อยกว่าน้ำทะเลประมาณ 10 เท่า ไม่ต้องเติมสารเคมีแบบระบบคลอรีน จึงไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง น้ำมีลักษณะเป็นด่าง เนื่องจากมีคุณสมบัติดีกว่าทำให้ราคาต้นทุนของระบบนี้แพงกว่าคลอรีนค่อนข้างมาก การใช้งานระยะยาวมักจะมีคราบตะกรันสีขาวเกาะขอบสระ และมีโอกาสเกิดตะไคร่สูง
ไฮโดรสมาร์ท ช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในสระน้ำตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการบำบัดน้ำด้วยวิธีทางกายภาพ (Physical Water Treatment – PWT) ลดความสามารถของธาตุในการจับตัวกันเป็นตะกรัน คราบหินปูน สนิม และจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของตะไคร่น้ำ ช่วยให้น้ำดูใสขึ้น ไม่ขุ่นมัว หากใช้ในระบบบำบัดด้วยคลอรีนจะสามารถลดใช้ปริมาณคลอรีนลงได้ถึง 50% ทำให้ต้นทุนการบำบัดถูกลงในระยะยาว ลดการใช้สารเคมี ช่วยลดกลิ่นคลอรีน และลดความระคายเคืองต่อร่างกาย เมื่อน้ำที่เข้าสู่ระบบสระว่ายน้ำมีคุณภาพดี ส่งผลให้ระบบบำบัดน้ำไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้ในระยะยาว